10 บิ๊กอสังหา ทุ่มกว่า 7.2 หมื่นล้าน กว้านซื้อที่ดินทั่วไทย ลุยโปรเจ็กต์ใหม่

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 2566 บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ยังคงตั้งงบประมาณซื้อที่ดิน โดยการสำรวจ 10 บริษัท พบว่าใช้เม็ดเงินร่วม 72,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง รับกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวทั้งแนวราบและแนวสูง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและการท่องเที่ยวกลับมาใกล้เป็นปกติ

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1,000- 2,000 ล้านบาท เพื่อแต่งรูปแปลงที่ดินเป็นแลนด์แบงก์ที่ซื้อไว้จำนวนมากให้สวย เช่น เปิดทางเข้าออก พัฒนาโครงการ โดยปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 12-13 โครงการ ทำเลกรุงเทพฯโซนเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และเป็นแนวราบทั้งหมด ซึ่งทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ยังคงมีการลงทุนบ้านลักชัวรี่อย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหลังเกิดคดีตู้ห่าวแล้วทำให้ตลาดชะลอไปชั่วคราว คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับเป็นปกติ

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้จะขยายการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ทั้งเครือทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยตั้งงบซืัอที่ดินไว้ 10,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ของทั้งเครือ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งราคาที่ดินปรับขึ้นทุกปัเฉลี่ยปีละ 5-10% ไม่หวือหวาเหมือนยุคที่คอนโดมิเนียมบูมมากๆ ขณะที่นโยบายบริษัทซื้อแล้วจะนำมาพัฒนาทันที

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ปีนี้แสนสิริเตรียมงบ 10,000 ล้านบาทสำหรับซืัอที่ดินสำหรับพัฒนาใหม่ในอนาคต ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ซึ่งเพิ่มจากปัจจุบันมีแลนด์แบงก์ในมือเพียงพอในการพัฒนาปีนี้แล้ว 52 โครงการ ส่วนค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 200-300 ล้านบาท

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เตรียมงบซื้อที่ดิน 5,000’ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย โดยเน้นทำเลกรุงเทพและปริมณฑลเป็นหลัก รองรับโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งซืัอเพิ่มจากปัจจุบันมีแลนด์แบงก์อยู่กว่า 10,000
ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับแผนการซื้อที่ดินใหม่ เน้นเฉพาะทำเลที่ขายได้ดี และอยู่ในแผน เช่น กรุงเทพโซนตะวันออกและตะวันตก ส่วนที่ดินบางแปลงซื้อไว้นานแล้วแต่ศักยภาพเปลี่ยน เสี่ยงโอเวอร์ซัพพลาย จะนำมาขายออก เช่น ทำเลกลางเมือง เพลินจิต ทองหล่อ ยังไม่คิดว่าจะซื้อเพิ่ม

โดยปี 2566 มีโครงการกำลังพัฒนาอยู่ 50,000 ล้านบาท และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นจากปีก่อน เน้นทำเลกรุงเทพและปริมณฑล โดยเพิ่มพอร์ตตลาดบ้านไฮเอนด์ระดับราคา 20-40 ล้านบาทมากขึ้น และเร่งระบายสต็อกบ้านและคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่มีมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาทให้หมดในปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน เพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการรายอื่น เช่น

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เตรียมงบซื้อที่ดินไว้ 8,000 ล้านบาทเพิ่มจากปีก่อนซื้อไปกว่า 40 แปลง มูลค่า 6,000 ล้านบาท
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมเงิน 5,000-6,000 ล้านบาทซื้อที่ดินเพิ่ม รองรับการพัฒนาโครงการใหม่
บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งงบไว้ 6,000 ล้านบาทเพิ่มจากปัจจุบันมีแลนด์แบงก์ 10,000 ล้านบาท พร้อมระบุว่าราคาที่ดินปรับสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ย 5%ต่อปี และซื้อในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อตารางวา
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีแผนซื้อที่ดิน 1,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพและปริมณฑลจำนวน 10-12 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ยังคงบุกตลาดปี 2566 อย่างต่อเนื่อง ทั้งกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด โดยเฉพาะแนวราบ คาดว่าจะตั้งงบซื้อที่ดินไว้ไม่น้อยกว่าปี2565 ที่ตั้งไว้ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะซื้อเติมทั้งโซนเก่าที่ขายดีและโซนใหม่
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ตั้งงบ 3,000-4,000 ล้านบาทเพื่อซื้อที่ดิน ในปี 2566 มีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านแนวราบ 8 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ

Credit:Matichon new